หมาอ้วนชวนเที่ยว...พาหมานั่งรถไฟไปอัมพวา ตอนที่1

ทริปนี้เป็นการพาหมาเที่ยวทางรถไฟครั้งแรกของเรา
แม่กับดาด้า(1 คน 1 หมา)
เพราะเคยอ่านหนังสือ "คิตตี้นั่งรถไฟเที่ยว"
ของคุณนอร่า เมื่อหลายปีก่อน
ทำให้นึกอยากพาหมาเที่ยวทางรถไฟมาตลอด
อยากแล้ว อยากอีก แต่ไม่เคยได้ไปซักที

ในที่สุดคราวนี้ก็พร้อมที่จะไปจนได้
หาข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม จัดการจองที่พัก ชื่อ บ้านรักอัมพวา
ราคาห้องพัก  1,000 บาท ไม่คิดค่าหมา เราก็โอนเงินเรียบร้อย
รอเวลาให้ถึงวันที่จะไป และแล้ววันนั้นก็มาถึง

เรานัดแท็กซี่แถวบ้านให้มารับแต่เช้า
เพื่อไปส่งที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่
แต่เนื่องจากรถติดมากทำให้ขึ้นรถไฟขบวน 8.35 ไม่ทัน
ต้องรอรถไฟรอบต่อไป 9. 40 น.
แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้มีเวลาถ่ายรูปเล่น
ขอแนะนำให้รู้จัก "ดาด้า" บ้านหมาอ้วนค่ะ

ก่อนขึ้นรถไฟเราก็ไปเอาตั๋วซึ่งเป็นรถไฟฟรีตรงที่จ่ายตั๋ว

แต่เนื่องจากเราพาหมามาด้วย
จึงต้องถามก่อนว่าค่าตั๋วหมาเท่าไหร่

พนักงานบอกว่าให้ซื้อตั๋วสัมภาระได้บนรถไฟเลย

ค่าสัมภาระ(หมาอ้วน1ตัว) ราคา 20 บาท

นั่งรถไฟเพลินๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
แรก ๆ ดาด้ามีอาการตกใจเสียงรถไฟเหมือนกัน

แต่ซักพักก็เริ่มชิน เริ่มนั่งอย่างสงบ
แต่จมูกก็ยังดมฟุดฟิดๆ ดมกลิ่นต่างๆ ตลอดทาง

จนมาถึงสถานีรถไฟมหาชัย
ยืนงงๆอยู่นิดนึงว่าจะเดินไปทางไหนดี?
สรุปก็เดินตามคนอื่นๆออกมา แล้วก็ถามคนแถวนั้นว่า
ท่าเรือข้ามฟากไปท่าฉลอมอยู่ที่ไหน?
พี่แถวนั้นก็ชี้มือไปทางที่เราจะต้องเดินผ่านตลาดไป

ระหว่างทางที่เดิน ผ่านร้านขายของทะเลแห้ง
เต็มไปตลอด 2 ข้างทาง

ดาด้าเชิดหน้าดมกลิ่นแปลก ๆ
ที่คงไม่เคยได้ดมมาก่อน อย่างสนอกสนใจ

เดินมาไกลพอสมควร เราก็มาถึงท่าเรือมหาชัย
ที่จะข้ามไปฝั่งท่าฉลอม

แต่เนื่องด้วยความหิวและอยากเข้าห้องน้ำ
ก็เลยแวะกินก๋วยเตี๋ยวก่อน

และเข้าห้องน้ำทั้งคนและหมา
(วางกระดาษหนังสือพิมพ์ให้ดาด้าฉี่ และเก็บทิ้งลงถังขยะ)

สบายตัวทั้งคนและหมา พร้อมออกเดินทางต่อไป
ค่าเรือข้ามฟากคนละ 3 บาท หมาขึ้นได้เลยไม่คิดค่าเรือ

ข้ามฟากมาที่ท่าฉลอมแล้ว เดินออกมาก็เลี้ยวขวา

ถามคนแถวนั้น(ถามอีกแล้ว)

ถามว่าสถานีรถไฟบ้านแหลมไปทางไหน

พี่เค้าก็บอกให้เดินตรงไปเรื่อยๆจนสุดถนนเส้นนี้

ซึ่งก็ไกลพอสมควร และอากาศก็ร้อนมากๆ แต่ไม่เป็นไร แม่ทนได้
ดีนะ ที่เอากระเป๋าแบบลากมา
ก็เดินลากหมาอ้วนฝ่าแดด ปุเรง ปุเรง กันไป

เราต้องเดินไปสุดถนนที่เห็น ลิบ ๆ นู่น ตามด้ามาค่ะ

และแล้ว เราเดินฝ่าเปลวแดดระยิบระยับ
มาถึงสถานีบ้านแหลมจนได้

แต่เพราะเราขึ้นรถไฟที่สถานีวงเวียนใหญ่ไม่ทันรอบ 8.35 น. 

ทำให้เรามาขึ้นรถไฟไปแม่กลองไม่ทันรอบ 10.10 น.
ต้องรอรอบต่อไป 13.30 น.

ดังนั้น ต้องวางแผนเวลาให้ดีนะคะ
เพราะถ้าไม่ทันรอบที่วงเวียนใหญ่

ก็จะทำให้เรามาเสียเวลารอรอบไปแม่กลองด้วย

พอรถไฟออก เราก็นั่งดูวิวข้างทางไปเพลินๆ

ผ่านต้นไม้เขียวๆ สลับกับนาเกลือ

หมาอ้วน ดูจะสนใจวิวข้างทางมาก

บางทีก็สูดกลิ่น ฟุดฟิดๆ เวลาได้กลิ่นแปลกๆ

มิตรภาพเล็กๆ ระหว่างทาง น้องทศกับน้องทิพย์

สองพี่น้องนี้ มากับคุณพ่อ

แต่ขอมานั่งกับหมาอ้วน และอยากจับ อยากเล่นกับดาด้า

เลยชวนมาถ่ายรูปด้วยกัน

นี่ไงตลาดร่มหุบ พอรถไฟผ่าน ก็หุบร่มกันพรึ่บพรั่บเลย

พอเราลงที่สถานีรถไฟแม่กลองก็เดินออกมาแล้วเลี้ยวซ้าย

แล้วก็เลี้ยวขวาอีกที แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ

เพื่อไปขึ้นรถสองแถว ที่จะไปโรงเจ อัมพวา

รถสองแถวสีฟ้าแบบนี้แหล่ะค่ะ จะจอดอยู่ที่ท่ารถหลายคันเลย 

ขึ้นไปนั่งรอจนผู้โดยสารเต็ม รถก็จะออกค่ะ ค่าโดยสาร 8 บาท

รถสองแถวคันนี้จะผ่านอัมพวาเลย และไปสุดสายที่โรงเจค่ะ

เรามาถึงที่พัก ก็เช็คอิน จองเรือสำหรับไปเที่ยวในวันรุ่งขึ้น
และเตรียมชุดใส่บาตรตอนเช้าด้วย พอจัดการทุกเรื่องเสร็จ
เราก็เข้าห้องพัก อาบน้ำ นั่งพักผ่อนซักพัก

แล้วก็พาหมาอ้วนออกไปหาอะไรกินข้างนอก

อัมพวาวันธรรมดา เงียบสงบมาก ไม่มีผู้คน ไม่มีของขาย ร้านค้าริมคลองไม่เปิด หาของกินยากหน่อย วันนี้เราสองคนแม่ ลูก เดิน เดิน เดิน ทั้งวัน

ร้อนแล้วก็เหนื่อยเหลือเกินค่ะ
ดาด้าก็คงเหนื่อยไม่แพ้กัน แต่ก็สนุกและมีความสุขมาก
ขอจบทริปการพาหมานั่งรถไฟเที่ยวอัมพวาด้วยรูปนี้นะคะ

พรุ่งนี้เราจะพาหมาอ้วนใส่บาตรริมคลอง และออกไปนั่งเรือเที่ยว

รวมถึงรีวิวที่พักให้ค่ะ คืนนี้ขอนอนกอดหมาอ้วนก่อน ฝันดีค่ะ

บรรยากาศริมคลองอัมพวายามค่ำคืน

ติดตามอ่าน ตอนที่ 2
หมาอ้วนชวนเที่ยว...ที่พัก บ้านรักอัมพวา ใส่บาตรริมคลอง พาหมานั่งเรือเที่ยว Unseen วัดบางกุ้ง