วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561

หมาอ้วนชวนคุย...เชอร์รี่ อาย (Cherry eye) ดาด้าก็เคยเป็นนะ!

ตอนดาด้าเด็กๆ อายุประมาณ 3-4 เดือน
อยู่ ๆ ก็มีก้อนเนื้อแดง ๆ ขึ้นมาตรงหัวตา
ก็รู้สึกกังวลมาก เลยพาไปหาหมอ



หมอบอกว่าดาด้าเป็น เชอร์รี่ อาย (Cherry eye)
เป็นโรคตา ที่พบได้ค่อนข้างบ่อยในหมาเด็ก
สาเหตุที่แท้จริง ยังไม่ทราบแน่ชัด
แต่สามารถเกิดได้จากต่อมของหนังตาที่สามยื่นโพล่ออกมาผิดปกติ 
แต่ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต เพียงแต่อาจจะไม่สวยงาม
และอาจก่อให้เกิดความรำคาญจากการระคายเคืองได้
ทำให้หมาเกาตา และเกิดการอักเสบตามมา


การรักษาโรคเชอร์รี่ อาย (Cherry eye)
หมออาจจะให้ยามาทาก่อน ในกรณีที่มีการอักเสบรุนแรง
แต่ดาด้า ไม่เจ็บ ไม่คัน ก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องตาอักเสบ


การผ่าตัด มี 2 วิธี คือ 1.การตัดหนังตาที่สามออกไปเลย
กับ 2.การเย็บดันต่อมของหนังตาที่สามกลับเข้าที่เดิม
ซึ่งการจะผ่าตัดได้ ควรอายุครบ 1 ปีขึ้นไป

ข้อดีข้อเสีย ของการผ่าตัดแต่ละวิธี คือ


วิธีที่ 1. การตัดหนังตาที่สามออกไปเลย

วิธีนี้ จะทำให้หายขาด แต่ตาแห้ง
ต้องหยอดน้ำตาเทียมตลอดชีวิต

วิธีที่ 2. การเย็บดันต่อมของหนังตาที่สามกลับเข้าที่เดิม
วิธีนี้ อาจทำให้เป็นซ้ำได้อีก แต่ไม่ต้องหยอดน้ำตาเทียม


เรารอจนดาด้าโต เกือบ 2 ขวบ
ก็พาดาด้าไปรักษาเชอร์รี่ อาย (Cherry eye)
โดยตัดสินใจว่า จะรักษาด้วยวิธีที่ 2 คือเย็บเข้า

เพราะไม่อยากหยอดน้ำตาเทียม ไปตลอดชีวิต

การผ่าตัด ก็นัดวัน แล้วก็อดข้าว อดน้ำไป

เหมือนการผ่าตัดทั่วไป หมอก็โกนขนรอบตาดาด้า
ตลกมาก แล้วก็ใส่คอลล่า กันเกาตา พากลับบ้านได้
ราคาค่ารักษาตอนนั้น ประมาณ 2,500 บาท ถ้าจำไม่ผิด




จากวันนั้นถึงวันนี้ ดาด้า 9 ขวบแล้ว
ก็ไม่เป็นเชอร์รี่ อาย (Cherry eye) ซ้ำอีกเลย
แม้ว่าหมอจะบอกว่า อาจเป็นซ้ำได้อีกก็ตาม
ปัจจุบันดาด้า ตากลมโต สดใสสวยงามค่ะ







วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561

หมาอ้วนชวนเที่ยว...พาหมาเที่ยว ต้องเตรียมอะไรบ้าง ?

ทุกครั้งที่จะพาน้องหมาไปเที่ยว
มักประสบปัญหาอย่างนึงคือ
รีสอร์ทที่ต้อนรับสัตว์เลี้ยง หายากมาก
หลายที่ ที่เคยรับ ก็ยกเลิกไป
ปัญหาของรีสอร์ทที่เคยรับสุนัข แล้วไม่รับอีกก็คือ...

-การที่ผู้เข้าพัก ไม่รักษาความสะอาด
ปล่อยให้น้องหมาวิ่งเล่นบนเตียง
ทั้งรอยเท้า และขนติดที่นอน ม่าน หมอนไปทั่ว

-บางคนเอาผ้าขนหนูของรีสอร์ทไปเช็ดตัวให้หมา
หนักกว่านั้นคือเอาไปเช็ดอึ เช็ดฉี่

-เวลาพาน้องหมาออกไปวิ่งเล่นข้างนอก
แล้วหมาอึ บนสนามหญ้า ก็ไม่เก็บอึให้เค้า
ลูกค้าคนอื่นเดินมาเหยียบก็เสียความรู้สึก

-หมาตัวผู้ก็ชอบยกขาฉี่ปิ๊ด ๆ ไปทั่ว 
หมาตัวเมียก็ชอบฉี่บนพรมเช็ดเท้า

ปัญหาพวกนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยนะคะ
ถ้าเราจะพาน้องหมาไปเที่ยวโดยมีจิตสำนึก
รับผิดชอบ ดูแลน้องหมาของเราให้ดี
ไม่ใช่คิดว่า จ่ายตังค์ไปแล้ว จะทำยังไงก็ได้ 

เวลาบ้านหมาอ้วนไปเที่ยว ไปพักโรงแรมหรือรีสอร์ท
จะเตรียมของไปเยอะมาก



1. เตรียมที่นอนของหมาไป หรือถ้าต้องนอนด้วยกันบนเตียงจริงๆ
ก็เตรียมผ้าปูที่นอน ถ้าเป็นแบบกันน้ำ กันฉี่ด้วยยิ่งดี
พกไปเองเพื่อคลุมทับที่นอนของรีสอร์ทอีกที

2. เตรียมกางเกงอนามัย โอบิ เวลาไปเที่ยว ทั้งตัวผู้ ตัวเมีย

3.. เตรียมถุงเก็บอึ แผ่นรองฉี่ กระดาษหนังสือพิมพ์
ไปปูให้เค้าฉี่ อึในห้องผ้าขนหนูของน้องหมา
(อย่าลืมเก็บทิ้งให้เรียบร้อย)

4.จานชามของหมาก็เตรียมไปด้วยนะคะ
อย่าไปใช้จาน ชาม แก้วน้ำของรีสอร์ทให้หมากินเด็ดขาด

5.
ยาประจำตัวน้องหมา น้ำเกลือล้างแผล
สเปรย์กันเห็บหมัด แชมพู สำลี ไดร์เป่าขน และอื่นๆ

6. 
สายจูง กรง คอก หรือ รถเข็น 
เอาไว้คอยควบคุมไม่ให้เค้าวิ่งเพ่นพ่าน รบกวนคนอื่น
ทั้งนี้ก็สามารถดูหน้างานกันอีกที
ว่าจะสามารถปล่อยให้เค้าวิ่งเล่นได้หรือไม่
แถวนั้นมีหมาเจ้าถิ่นหรือเปล่า?

7. เสื้อผ้า เครื่องแต่งตัว หมวก รองเท้า ปลอกคอ
พร็อพถ่ายรูปสวยๆ จัดไปค่ะ อันนี้ขาดไม่ได้เลย

และที่สำคัญ ดูแลอย่าให้น้องหมาของเราเห่า
หรือวิ่งไปรบกวนแขกที่พักคนอื่น
เพราะหมาที่น่ารักของเรา
อาจเป็นหมาที่น่ารำคาญของคนอื่นได้นะคะ


ช่วยกันค่ะ คนรักหมาทุกคน ช่วยกันดูแล รับผิดชอบ
เพื่อที่เราจะได้มีที่พักดี ๆ สวยๆ
ให้เราได้พาน้องหมาไปพักกันอีกในวันข้างหน้านะคะ

-บ้านหมาอ้วน-

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2561

หมาอ้วนชวนเที่ยว...ที่พัก บ้านรักอัมพวา ใส่บาตรริมคลอง พาหมานั่งเรือเที่ยว Unseen วัดบางกุ้ง ตอนที่ 2

ต่อจากตอนที่1 พาหมานั่งรถไฟไปอัมพวา
เมื่อเรามาถึงอัมพวา และเช็คอินเข้าที่พัก บ้านรักอัมพวา
ซึ่งเราโทรสอบถามก่อนจะมาแล้ว ว่าอนุญาติให้หมาเข้าได้
และไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม ราคาที่พักคืนละ 1,000
เราก็โอนล่วงหน้าก่อนเข้าพักเรียบร้อย




ห้องพักตกแต่งน่ารักดี อบอุ่นดี 





ระเบียงริมคลอง มีโต๊ะเล็กๆ และเบาะพิงนอน
สามารถนั่งทานอาหาร ชมบรรยากาศริมคลองได้
หลังจากที่เราเข้านอนกันด้วยความอ่อนเพลีย
จากการเดินทางด้วยรถไฟเมื่อวาน

เช้านี้ที่อัมพวา เราสองคนแม่-ลูก
ตื่นกันตั้งแต่เช้าเพื่อรอใส่บาตรทางเรือ

เรียกได้ว่า ถ้าใครมาอัมพวา
ไม่ควรพลาดการใส่บาตรแบบนี้นะคะ
นานๆทีได้ตื่นเช้า รับบรรยากาศริมคลอง รู้สึกดีมากๆค่ะ
ชุดใส่บาตรนี่ สั่งทางบ้านพักไว้ 3 ชุด ตั้งแต่ตอนที่เช็คอิน
ตอนออกมาที่ริมคลอง เค้าเตรียมไว้ให้เรียบร้อย

เราก็นั่งรออยู่ซักพักนึง
ระหว่างนี้ก็เตรียมขาตั้งกล้อง อะไรให้เรียบร้อย






นั่น...พระท่านพายเรือมาแล้ว

เรารีบออกไปยกมือไหว้เพื่อนิมนต์ท่าน

ตั้งเวลาถ่ายรูปไม่ทัน
เลยไม่มีรูปตอนใส่บาตร เสียดายจัง

พอหลังจากใส่บาตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก็ไปชงกาแฟ หยิบปาท่องโก๋ใส่จานมาทานที่โต๊ะ
แถมด้วยมื้อเช้าเป็นข้าวต้มรวมมิตร อร่อยเลยค่ะ




ส่วนดาด้าก็นั่งชมบรรยากาศริมคลองอยู่ใกล้ๆ
ท่าทางจะดื่มด่ำกับบรรยากาศจริงๆ




พอทานอาหารเช้าเสร็จก็ไปอาบน้ำ
แต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปนั่งเรือเที่ยว
เรานัดเรือมารับที่ท่าน้ำตอน 9 โมงเช้าค่ะ
วันธรรมดาแบบนี้ต้องเหมาลำค่ะ 500 บาท
ความจริงคุณลุงขับเรือเค้าจะพาเที่ยวหลายที่ หลายวัด
แต่เราตั้งใจจะไปวัดบางกุ้งโดยเฉพาะ
คุณลุงที่ขับเรือถามว่า แวะวัดจุฬามณีหน่อยมั๊ยหนู ?

ที่นี่มีหลวงพ่อเนื่องที่มรณะแล้วไม่เน่าไม่เปื่อย ก็เลยแวะค่ะ
ฝากดาด้าไว้กับคุณลุงขับเรือ

แล้วก็ขึ้นไปกราบหลวงพ่อเนื่อง








ออกจากวัดจุฬามณี ก็นั่งเรือต่อมายังวัดบางกุ้ง
ถ้ามาทางเรือ เราจะต้องผ่านส่วนที่เลี้ยงสัตว์ต่างๆ
ที่อยู่ในวัดก่อนนะคะ สามารถซื้ออาหารเลี้ยงเค้าได้
เท่าที่เห็น มีทั้งแพะ กวาง ม้า ปลา



แต่เราไม่ได้แวะตรงนี้นานเพราะพาหมามาด้วย
รีบลากกระเป๋าผ่านโซนนี้ไป
และข้ามถนนไปฝั่งโบสถ์ปรกโพธิ์ ค่ายบางกุ้ง







หลังจากไหว้พระ ทำบุญที่นี่เสร็จ
เราเดินกลับมาที่เรือมุ่งหน้าไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ
ที่ตลาดบางน้อย ก่อนจะกลับที่พัก





เรานั่งเรือกลับที่พัก เพื่อเช็คเอ๊า​ท์
แล้วก็นั่งสองแถวมาท่ารถแม่​กลอง
ทีแรกตั้งใจจะมาขึ้นรถ บขส แบบไม่มีแอร์

ก็ลองถามคนแถวนั้น
แต่ปรากฎว่าคนที่ท่ารถตู้บอ​กให้กลับรถตู้ได้เลย

ให้หมาขึ้นรถได้ด้วย แต่ขอคิดราคาเป็นอีกที่นึง
รวม 150 บาท ซึ่งอี๊ดยินดีจ่ายเลยค่ะ
โชคดีจริงๆที่เค้ารถตู้เค้าให้หมาขึ้นรถได้

ทำให้เรากลับมาถึงกรุงเทพเร็วกว่าที่คิดค่ะ
ขอจบทริปอัมพวาตรงนี้นะคะ
การได้พาหมามาเที่ยว มาทำบุญ ไหว้พระ
นั่งรถไฟ ขึ้นรถ ลงเรือ เป็นการฉีกกรอบชีวิตที่น่าเบื่อ

เป็นประสบการณ์ดี ๆ ที่นานแค่ไหน ก็จะไม่ลืมเลยค่ะ

ดาด้าเป็นหมาที่เป็นเพื่อนเที่ยวได้ดีมาก

ไม่บ่น ไม่เรื่องมาก ไม่อึ ไม่ฉี่เลอะเทอะ ไม่เห่ามั่ว
แม่รักดาด้า หมาอ้วนตัวนี้ที่สุดเลย
ขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง ไม่มากก็น้อยค่ะ.

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561

หมาอ้วน รีวิว...รองเท้าสุนัข จำเป็นแค่ไหน?

รองเท้าสุนัข ถ้าถามว่าจำเป็นหรือไม่?
ที่จะให้หมาใส่รองเท้า จริงๆ ก็อาจจะไม่จำเป็น
แต่เจ้าของสุนัขหลายคน อาจเจอปัญหา
และต้องการป้องกัน 
ในกรณีที่ น้องหมาแพ้พื้นปูซีเมนต์
พื้นพาเดินบนพื้นปูนร้อน ๆ หรือบนหินกรวดคม ๆ หยาบ ๆ
อาจทำให้อุ้งเท้าน้องหมาบวม พอง เป็นแผลได้


หรืออยากให้น้องหมาใส่รองเท้า
เพื่อความสวยงาม แฟชั่น
หรือเพื่อป้องกันขาเปียก ขนเลอะ
กันเห็บหมัดเกาะเท้าเข้าบ้าน
เวลาพาออกไปเดินเล่นข้างนอก 
หรือแม้แต่ป้องกันการตะกุยเบาะรถ
เบาะโซฟาแสนแพง


ทุกปัญหาที่กล่าวมา จึงถือว่ารองเท้าสุนัขจำเป็นในระดับนึง
แต่ไม่ใช่ว่าน้องหมาทุกตัวจะใส่แล้วเดินได้ในครั้งแรก

การฝึกใส่รองเท้าให้น้องหมา

มีทริคเล็กๆ คือ...
ควรให้เค้ารู้สึกดีๆ กับการใส่รองเท้า
สร้างภาพจำว่า ถ้าเมื่อไหร่ใส่รองเท้า
นั่นคือการได้ออกไปเที่ยว ออกไปเดินเล่น

ในตอนแรกอาจจะเดินได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
เดินท่าแปลกๆ หรือไม่ยอมเดินเลย
ก็ต้องพยายาม ใจเย็นๆ ทำซ้ำ ๆ นะคะ


และถ้าเห็นเค้าเดินได้ ให้ลูบหัว ลูบตัว ชมว่าเก่ง เก่งมาก
จะทำให้เค้ารู้สึกดี กับการใส่รองเท้าในครั้งต่อไปค่ะ.




โพสต์แนะนำ

วิธีช่วยหมา หลอดลมตีบ มีอาการครืดๆ

ชิวาวา เป็นหมาอีกพันธุ์หนึ่ง ในประเภทหมาหน้าสั้น ที่ชอบเกิดอาการคอตีบ มีอาการครืดๆ แบบที่เห็นในคลิป ยิ่งถ้าเป็นหมาอ้วนอย่างที่บ้าน ก็จะ...